หลวงพ่อแดง สิริภทฺโท
หลวงพ่อแดง สิริภทฺโท ปัจจุบันอายุ 92 พรรษา 17
ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดห้วยฉลองราษฎร์บำรุง หมู่ที่ 2 บ้านห้วยฉลอง
ต.ถ้ำฉลอง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ อัตโนประวัติ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน
2459 ปีมะโรง ที่บ้านนาตารอด ต.หาดงิ้ว อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ
นายพลอยและนางบาง เพ็ชรสวัสดิ์ เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ช่วงอายุได้ 12
ปี บิดามารดาพาไปบวชเณรกับหลวงพ่อฮวบ เจ้าอาวาสวัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง
จ.อุตรดิตถ์ เนื่องจากฐานะทาง บ้านยากจน ช่วงที่บวชเณรอยู่นั้น
ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและศึกษาตำราเรียนสมุนไพรจากใบลาน
พร้อมทั้งศึกษาคาถาบาลี เลขยันต์จากหลวงพ่อฮวบ เป็นเวลา 4 ปี
ก็ได้สึก ออกมาช่วยเหลือพ่อแม่ทำงาน กระทั่งอายุครบได้ 20 ปี ก็ได้อุปสมบท
มีหลวงพ่อไซร์ ติสฺสโร เจ้าอาวาสวัดช่องลม (วัดหนองเหี้ย) ต.แสนตอ อ.เมือง
จอุตรดิตถ์ เป็นพระครู อุปัชฌาย์ จากนั้นได้ศึกษาวิชาไสยเวท
วิชาอาคมด้านแคล้วคลาด ผูกดวง ดูดวง
พร้อมทั้งเรียนภาษาบาลีและตำรายาสมุนไพรเพิ่มเติมอย่างตั้งใจจนเรียนสำเร็จ
และเรียนจนกระทั่ง จบนักธรรมตรี บวชเรียนอยู่ได้นานเกือบ 8 ปี
สึกออกมาและมีครอบครัวรวมระยะเวลาที่เล่าเรียนอยู่กับหลวงพ่อฮวบและหลวงพ่อไซร์(วัดชองลม)นานถึง
13
ปี เมื่อมีครอบครัวแล้ว ก็ได้นำวิชาที่เล่าเรียนมาประกอบอาชีพเป็นหมอสมุนไพรรักษาโรคทั่วไปและโรคร้ายให้กับชาวบ้าน
โดยเฉพาะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ ที่ใครเป็นแล้วก็ตามมักจะรักษาไม่หาย
แต่เมื่อมาถึงหมอแดง โรคร้ายดังกล่าวจะหายไปทันที
เพราะเชื่อกันว่าได้นำตัวยาสมุนไพรชนิดหนึ่งมาต้มพร้อมกับเป่ามนต์ไสยเวทไปด้วย
ระหว่างที่เป่ามนต์ไสยเวทก็ได้ระลึกนึก ถึงพระพุทธชินราช
ซึ่งเป็นพระครูบาอาจารย์ใหญ่ประจำมณฑลภาคเหนือ
ในระหว่างที่เคี่ยวตัวยาทำให้ได้ยาที่สมบูรณ์แบบ จนได้รับฉายาว่า พ่อเลี้ยงแดง
มีชื่อเสียงโด่งดังไปใน หมู่บ้านและดังไปไกลทั่วทุกสารทิศในภาคเหนือ อยู่กับครอบครัวจนมีบุตร-ธิดารวมกัน
4 คน ช่วงเวลาเช้าและเย็นมักจะหาเวลาเข้าวัดสม่ำเสมอเพื่อปฏิบัติธรรม ถือศีลภาวนา
หรือแม้แต่อยู่ที่บ้านก็หาเวลานั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมมิได้ขาด
จนคนในหมู่บ้านเลือกให้เป็นมรรคนายกวัด ในช่วงมีพิธีงานบวช
งานบุญก็จะเรียกหาใช้ให้เป็นผู้นำทางด้านศาสน พิธี ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์
นำสวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็น และนำสวดในพิธีต่างๆ ที่สำคัญทางศาสนา กระทั่งอายุได้
73 ปี บุตร-ธิดา ได้โตจนมีครอบครัวสามารถเลี้ยงหาดูแล ตนเองได้แล้ว
ไม่น่าเป็นห่วงอะไรอีกต่อไป จึงได้บวชเป็นพระภิกษุอีกครั้ง โดยมี หลวงพ่อฟัก
ภูริปัญโญ หรือ พระครูนิกรธรรมรักษ์ เจ้าอาวาสวัดหาดงิ้ว ต.หาดงิ้ว อ.เมือง
จ.อุตรดิตถ์ เป็นพระครูอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์วิเชียร เจ้าอาวาสวัดเกาะเรไร และ
พระอธิการอารมณ์ เจ้าอาวาสวัดช่องลม ต.แสนตอ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
เป็นพระคู่สวดกรรมวาจา จารย์-อนุสาวนาจารย์หลังจากที่บวชแล้วก็ได้มาอยู่ที่พักสงฆ์ห้วยฉลอง
บ้านห้วยฉลอง หมู่ที่ 2 ต.ถ้ำฉลอง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
โดยมีญาติโยมร่วมกันสร้างกุฏิมุงหลังคาสังกะสีให้ จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียวพร้อมทั้งสร้างโรงอบยาสมุนไพร
เพื่อรักษาโรคด้วยไสยเวทให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน
ทั้งได้นำวิชาความรู้ด้านอาคมแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ผูกดวง ดูดวง
ตามที่ได้เล่าเรียน หลวงปู่แดง กล่าวว่าการดำรงตนเป็นพระภิกษุต้องยึดเอาศีล
227 ข้อเป็นที่ยึดเหนี่ยว พร้อมกับหมั่นสวดมนต์ไหว้พระ
นั่งภาวนาทำจิตสมาธิให้มั่นและ แน่วแน่
นึกถึงครูบาอาจารย์ที่พร่ำสอนมา คติธรรมที่สั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาคือผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว
ย่อมจะทำให้ชีวิตมีแต่ความก้าวหน้า มั่งมีศรีสุข
ครอบครัวมีแต่ความอบอุ่น สำหรับสิ่งที่คนทั่วไปยกย่องเป็นเกจิอาจารย์นั้น
หลวงพ่อแดงบอกว่ารู้สึกเฉยๆ ไม่ได้นิยมชมชอบกับสิ่งที่เยินยอออกมา
ก็ได้แต่อุเบกขานิ่งเสีย
เงินที่ได้มาก็ตั้งใจที่จะทำการสร้างอุโบสถให้สำเร็จลุล่วงเพียงอย่างเดียว
ยึดมั่นในหลักคำสอน ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้รับผลที่ไม่ดีตอบแทน
กรรมเป็นเครื่องชี้วัดของคนทุกผู้ทุกนาม สำหรับมุมมองเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลต่างๆนั้น
หลวงพ่อแดงบอกว่าเครื่องรางของขลังเป็นวัตถุอย่างหนึ่ง
ที่สามารถเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของ คนให้มีสมาธิ จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน
เมื่อไม่ฟุ้งซ่านก็เกิดความศรัทธาในสิ่งนั้น
ความศรัทธาบวกกับคุณงามความดีที่ได้สร้างสะสมเอาไว้ก็จะก่อให้เกิดพลังอำนาจ
และพลังนี้จะเป็นผู้ทำ ลายสิ่งชั่วร้ายที่จะเกิดกับตน
อยู่ที่ว่ามีความเชื่อมากน้อยแค่ไหน ผู้ที่มีวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลัง
จะต้องยึดมั่นถือมั่นทำในสิ่งที่ดี ถือศีล 5 ศีล 8 ผลดีก็จะตอบแทนภายหลัง
แต่ถ้าทำชั่วเครื่องรางของขลังต่อให้ดีแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะคุ้มครองคนชั่วได้!!
ข้อมูลจากคอลัมน์ มงคลข่าวสด หนังสือพิมพ์ข่าวสด
|