ร้านอ้น โลตัส Aon Lotus 
กลับหน้าหลักเว็ปพระเครื่องเมืองอุตรดิตถ์
ยินดีต้อนรับท่านสมาชิกที่ชอบและหลงใหลในศีลปะของพระเครื่องอันล้ำค่าถือเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาซึ่งดำรงอยู่ต่อไป @ อ้นโลตัส อุตรดิตถ์ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยจากใจจริงครับ! และขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาอุดหนุน และยังรับเช่า-ให้เช่า(พระเครื่องสายอุตรดิตถ์)ในราคาประทับใจ รับประกันความแท้ตามมาตราฐานสากลยอมรับ อุ่นใจที่ท่านได้ใช้ของดีของแท้ครับ ขอขอบคุณครับ! เงื่อนไขการรับประกัน 1. รับประกันพระแท้ตลอดชีพ? 2.รับประกันความพอใจเพียง 3 วันนับตั้งแต่วันที่ท่านได้รับพระ (หากเก๊ยินดีคืนเต็มจำนวนไม่หักเปอร์เซ็นต์ และพระต้องคงสภาพเดิมด้วย ครับ) **กลั่นกรอง เน้นสวย รับประกันพระแท้ทุกองค์ ราคามาตราฐาน เช่าแล้วสบายใจ**
 หน้าร้านค้าอ้น โลตัส Aon Lotus  
ชื่อพระเครื่อง : มีดหมอเหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
ประเภทพระเครื่อง : 30.เครื่องรางของขลัง
ราคา : โทรถาม
สถานะ :
เปิดให้เช่าวันที่ : 17 ธ.ค. 60 - 01:55:11
เบอร์โทรติดต่อ : 0856030079
รายละเอียดพระเครื่อง : มีดหมอ จัดเป็นเครื่องรางของขลังในอีกรูปแบบหนึ่ง มีชื่อเรียกขานแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น บ้างเรียกมีดปราบไพรีพินาศ บ้างเรียกมีดเทพศาสตราวุธ บ้างเรียกมีดด้ามงา บ้างเรียกมีดเหน็บ และที่เรียกมีดครวญช้างก็มี ซึ่งเป็นการเรียกตามลักษณะของมีดหมอที่สร้างขึ้น มีดหมอของหลวงพ่อเดิมแต่แรกนั้นยังมีรูปแบบไม่แน่นอน ผู้ที่ต้องการมีดหมอต่างให้ช่างตีมีดขึ้นมาแล้วทำด้ามทำปลอกกันเอง จากนั้นจึงนำมาให้หลวงพ่อเดิมทำการบรรจุและปลุกเสกให้ ต่อมาจึงมีการริเริ่มทำมีดหมอให้มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เหมือนๆ กัน ใบมีดมีลักษณะเหมือนกับมีดจักตอก โดยที่โคนมีดคอด แล้วค่อยๆ ป่องขึ้นแล้วเรียวปลาย ใบมีดมีการสลักอักขระขอม หรือลวดลายใกล้สันมีด ขณะเดียวกันด้ามมีดก็มีการสลักลายสวยงาม เป็นมีดหมอของหลวงพ่อเดิมในยุคกลาง ส่วนมีดหมอที่นิยมเล่นหาสะสมกันอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นมีดหมอในยุคปลาย เมื่อความต้องการของมีดหมอมีมากขึ้นทางวัดจึงได้จ้างช่างในอำเภอพยุหะคีรีตีมีดขึ้นส่งวัด ซึ่งเท่าที่สืบทราบได้มีช่างฉิม ช่างไข่ ช่างสอน ช่างแม้น แต่ช่างที่คนในวงการรู้จักกันมากที่สุดคือ ช่างไข่ และช่างฉิม มีดหมอหลวงพ่อเดิมนี้บางท่านเรียกว่า "มีดปราบชาตรี" ด้วยว่าหลวงพ่อเดิมได้สร้างมีดหมอขึ้นมามีวัตถุประสงค์ประการหนึ่ง คือ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกรังแกจากพวกนักเลงหัวไม้ในอดีต ที่มักสักยันต์ลงคาถาอาคม อาบน้ำว่าน เพื่อให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพัน พกพาเครื่องรางของขลัง ทั้งที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ และปลุกเสกขึ้น แล้วออกรังแกชาวบ้านด้วยว่าตัวเองมีของดีปกป้องรักษา ดังนั้นด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์ที่อยู่ห่างไกลจะถูกพวกนักเลงอันธพาลรังแก หลวงพ่อเดิมจึงได้สร้างมีดหมอขึ้นมา ซึ่งมีพุทธคุณครอบจักรวาล คือ 1.ป้องกันคุณไสย 2.ป้องกันตัวเองจากศัตรู 3.ขับภูติผีปิศาจที่เข้าสิง 4.แก้อาถรรพ์ความคงกระพันชาตรี 5.ป้องกันอสรพิษ และสัตว์เขี้ยวงาทั้งหลาย #มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงปรารภกับพระยาบดินทรเดชานุวัตร สมุหเทศาภิบาล ถึงเรื่องจระเข้ในบึงบรเพ็ดว่า หน้าน้ำมีน้ำมากเต็มบึงจระเข้อาจจะหลุดมาทำร้ายชาวบ้านได้ พระยาบดินทรเดชานุวัตรกราบบังคมทูลว่า อย่าได้ทรงวิตกเลย เพราะได้ขอให้พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม) วัดหนองโพ ช่วยจัดการสะกดจระเข้ในบึงบรเพ็ดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยท่านมีมีดหมอปราบกุมภีล์ ซึ่งสามารถสะกดจระเข้ให้อยู่ได้ มีดหมอของหลวงพ่อเดิมจึงมีชื่อเรียกขานอีกอย่างหนึ่งว่า "มีดปราบกุมภีล์" #มีดหมอของหลวงพ่อเดิม มีเรื่องเล่าขานถึง "ปาฏิหาริย์" มากมาย ดังเรื่องของนายแกละ พ่อค้าในตลาดตาคลี ซึ่งได้ไปเที่ยวที่อำเภอตากฟ้า และได้เกิดไปมีเรื่องมีราวกับนักเลงเจ้าถิ่น ซึ่งมี 2 คน แถมด้วยปืน 2 กระบอก ทว่านายแกละได้พกมีดหมอของหลวงพ่อเดิมติดกายไปด้วย เมื่อเจ้าถิ่นทั้ง 2 ลั่นกระสุนเข้าใส่ร่างของนายแกละ ต่อหน้าผู้เห็นเหตุการณ์นับสิบคน คมกระสุนไม่อาจเจาะผ่านร่างของนายแกละแต่ประการใดไม่ อีกเรื่องหนึ่ง ตำรวจได้จับกุมคนร้ายคนหนึ่ง ซึ่งพกพามีดหมอเป็นเครื่องรางของขลังติดกาย และได้ชักมีดหมอต่อสู้กับตำรวจไม่ยอมให้จับกุม ตำรวจเห็นคนร้ายต่อสู้ขัดขืนการจับกุมจึงคิดจะจับตาย ได้ช่วยกันยิงคนร้าย แต่กระสุนปืนหลายกระบอกหาได้ยิงถูกคนร้ายที่ถือมีดหมอวิ่งหนีไปไม่ สุดท้ายคนร้ายวิ่งจนหมดแรงจึงยอมให้จับกุมแต่โดยดี ตำรวจได้มีดหมอของกลางมาสอบถามว่าเป็นของหลวงพ่อกัน แต่มีผู้เห็นมีดหมอด้ามนี้เป็นมีดเหล็กดำ ว่าเป็นมีดที่หลวงพ่อเดิมปลุกเสกให้หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว มีดหมอยังมีสรรพคุณในด้านการปราบผีด้วย ดังเรื่องราวของ พันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ หรือที่รู้จักกันในนามของ "ตรียัมปวาย" นักเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่อง และผู้จัดทำเนียบพระเครื่องชุด "เบญจภาคี" ในสมัยที่พันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ ยังมียศที่ร้อยตรี ประจำอยู่จังหวัดนครราชสีมา ท่านได้มีดหมอของหลวงพ่อเดิมมาไว้เป็นของคู่เรือนอยู่เล่มหนึ่ง ได้เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า ที่มีเสื้อผ้าของภรรยาของท่านรวมอยู่ด้วย แต่ทว่าเอาไว้ชั้นบน ปรากฏว่าเมื่อท่านให้ทหารรับใช้มานอนเฝ้าบ้าน ทหารรับใช้นั้นก็ไม่เต็มใจที่จะมานอนเพราะกลัวตู้ใบนั้น ครั้นถามว่าเอ็งกลัวตู้ใบนั้นทำไม มีอะไรหรือ ทหารรับใช้ก็ว่า อยู่ดีๆ ตู้ใบนั้นจะสั่นเองได้ โดยไม่มีใครไปเขย่า ทำให้เขากลัว ต่อมาปรากฏว่าเสื้อผ้าของภรรยาพันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ หล่นลงมากองอยู่ข้างล่างเหมือนกับมีใครจับโยนลงมา ทำให้พันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ นึกขึ้นมาได้ จึงได้นำมีดหมอออกไปเก็บไว้ที่อื่น หรือในคราวหนึ่งที่โรงเลี้ยงอาหารของทหาร เกิดมีเรื่องเอะอะขึ้น โดยพวกทหารที่มาจากทางอีสานบางคนมีวิชาดี ปล่อยผีให้เข้าสิงในหมู่เพื่อนทหารด้วยกัน ผู้ที่ถูกผีสิงก็แสดงอาการอาละวาด ขว้างปาจากชามแตกโพล้งเพล้ง เมื่อมีผู้ไปรายงาน พันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ โมโหมาก จึงพกมีดหมอของหลวงพ่อเดิม ตรงไปยังโรงเลี้ยงอาหารแล้วประกาศหาตัวคนที่ปล่อยผีเข้าเพื่อนทหาร ทันใดนั้นผีก็เข้าทหารคนหนึ่งถึงดิ้นและกราดเกรี้ยว พันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ จึงเดินตรงเข้าไปหาทหารคนนั้น แต่ยังไม่ทันถึงตัวดี เจ้าผีร้ายก็ร้องลั่นว่า "ออกไปห่างๆ ข้อยยั่นอาณาจักร" ครั้นเมื่อ พันเอก (พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ เข้าไปจับมือ ผีก็ออกไปทันที ทหารคนนั้นก็มีอาการล้มหงายผึ่ง ทั้งนี้มารู้ในภายหลังว่า ที่ร้องว่า "ข้อยยั่นอาณาจักร" นั้น เพราะผีร้ายมองเห็นเป็นจักรพระนารายณ์จะเข้ามาสังหารมัน มันจึงบังเกิดความกลัว หมายเหตุ : ขอบคุณเครดิต แหล่งที่มาของ (จ่าเจี๊ยบ ปากน้ำโพ) -------------------------------------------------- เรื่องที่2: ตำนานคนหนังเหนียว มีดหมอหลวงพ่อเดิมปะทะดาบล้างอาถรรพ์◎ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม) ไพฑูรย์เล่าว่าคราใดที่ถูกจองจำ ห้าสถาน อันประกอบด้วยข้อมือสองข้างโยงไปที่มือและข้อเท้าสองข้างถ่วงด้วยลูกตุ้มตรวนจะเดินเหินลำบากต้องลากขาสองข้างไปตามทาง เดินเสียงโซ่ลากพื้นดังแกรกๆ ทั้งนี้เพราะไพฑูรย์เคยเอาปากกาขว้างใส่ผู้พิพากษาและอัยการถูกเพิ่มโทษ และทางเรือนจำได้ตัดสินใจจองจำห้าสถานระหว่างเดินทางจากเรือนจำไปศาลเพื่อมิให้ละเมิดศาลได้อีก การกระทำดังกล่าวเป็นการย้อนยุคไปในยุคที่ยุคที่ทางกรมนครบาลใช้การสอบสวนผู้ต้องหาด้วยการทรมานที่เรียกกันว่า ‘’จารีตนครบาล’’ ถ้ามีเวลาไปพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับคุกมหันตโทษได้ที่เรือนจำบางขวางจะเห็นเครื่องทรมานผู้ต้องหาให้รับสารภาพ อาทิ การตอกเล็บ คือการเอาเข็มขนาดใหญ่ตอกเข้าไปในจมูกเล็บ เอาเครื่องบีบขมับมาบีบขมับผู้ต้องหา การใส่ตรวน กำกับการใช้ขื่อคาที่คอและข้อมือผู้ต้องหา การสักหน้า การแห่ประจานฯลฯ ความเจ็บปวดทรมานทำให้ผู้ต้องหาทนไม่ไหวก็รับสารภาพ แต่แล้วไพฑูรย์ ก็ต้องมาโดนจารีตนครบาลที่พระบาลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทางยกเลิกที่ทางเรือนจำบางขวางจนได้นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ตัดสินใจตั้งใจเป็นหนึ่งว่าจะแหกคุกทุกครั้งหากมีโอกาสทำได้ และก็ได้ทำสมใจอยาก หากหนีไปไม่รอดก็กลับมาพบกับการโบย การซ้อมสองสลบ สามสลบ ทุกครั้งที่โดนอาญาเถื่อน ก็ทำให้ไพฑูรย์เพิ่มความแค้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนจิตใจเกิดความเหี้ยมโหดจนถึงที่สุด อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อนเป็นดินแดนที่มีผู้กล้ามากมายสืบเชื้อสายกันมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นคำพูดที่สืบกันมาว่า ‘’กรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี’’ เริ่มจากพระบามสมเด็จพระศรีสุริโยทัยวีรสตรีที่สละพระชนม์ชีพเอาพระวรกายรับคมง้าวของพระเจ้าแปรจนขาดคอช้างเพื่อให้สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงรอดพระชนม์ชีพจากของ้าวของพระเจ้าแปร สมเด็จพระนเรศวรมหาราช(พระองค์ดำ)ทรงกอบกู้เอกราชแห่งกรุงศรีอยุธยาด้วยการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาที่ดอนเจดีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชของประเทศไทย หลังจากกรุงศรีอยุธยาถูกเผาเป็นเถ้าถ่านสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีใหม่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบรมราชาธิราชแห่งกรุงรัตนโกสินร์ ทรงทำให้ประเทศสยามพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและฝรั่งเศสด้วยวิเทโศบายด้านต่างประเทศ ไพฑูรย์ว่าผู้ใดไม่น้อมรำลึกถึงมหาบารมีของพระมหากษัตริย์ทั้ง3พระองค์นี้ ในกมลสันดานแล้วเป็นคนไทยเพียงแต่ชื่อ แต่หัวใจและเลือดเนื้อหาใช่คนไทยไม่ เพราะทั้ง 3พระองค์ทรงพระคุณอันใหญ่หลวงต่อชาวไทยเป็นล้นพ้น จากลานเทไปซ่อนตัวอยู่ที่ตำบลมหาราชกับกำนันสมาน ที่พี่เสงี่ยมได้เคยแนะนำให้ไปพึ่งเมื่อเดือดร้อนเพราะกำนันสมานเป็นญาติกับพี่เสงี่ยมการแนะนำตัวก็ไม่ยาก พี่เสงี่ยมจะบอกรหัสติดต่อที่รู้กัน เมื่อไพฑูรย์พูดกับกำนันสมาน กำนันก็ร้องอ้อแล้วให้ไปพักในที่สำหรับรับแขกพิเศษที่มาขอพึ่งพาอาศัยในสวนกล้วยน้ำว้าที่ห่างไกลผู้คน กำนันสมานคนนี้สืบเชื้อสายมาจาก ‘’เสืออ่วม อกโรย’’ ขุนโจรชื่อดังเมื่อต้นรัชสมัยพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบรมมหาราชาธิราชที่ท่านเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เสืออ่วม อกโรย ออกอาละวาดปล้นฆ่าจนเป็นที่ครั่นคร้ามของบรรดาชาวกรุงเก่าเลยไปบางเสด็จ,ป่าโมก ไปจนถึงวิเศษชัยชาญ กรมการเมืองกรุงเก่าถูกเรียกมาพบกับท่านเจ้าพระยาฯ ได้ซักไซ้ไล่เรียงจนได้ความแน่ชัดจึงสั่งให้กรมพระนครบาลนำกำลังออกไปปราบเสืออ่วมอกโรยทั้งทางน้ำและทางบก ท่านเจ้าพระยาฯ นำกำลังไปเสริมอีกหน่วยหนึ่ง เสืออ่วมไม่คิดว่าทางการจะระดมกำลังปราบ จึงไม่ได้ระวังตัวเท่าที่ควร มัวเพลินกับลูกสาวชาวบ้านที่ปล้นฆ่าบิดาแล้วฉุดลูกสาวมาทำเมีย ถูกกำลังนครบาลที่ตั้งด่านสกัดรวบตัวได้ขณะกำลังเปลือยกายสาวร้องบอกให้ทางนครบาลรู้ว่าเป็นเสืออ่วม เสืออ่วมถูกขังไว้รอท่านเจ้าพระยาฯมาทำการพิจารณาคดี ท่านเจ้าพระยาสั่งให้กรมการเมืองกรุงเก่านำพยานมายืนยันมั่นเหมาะ ศาลขณะนั้นมิได้พิจารณาคดีแบบปัจจุบัน ท่านเจ้าพระยาฯ ตัดสินให้ประหารชีวิตซึ่งตามปกติเป็นการตัดหัวให้มีคนมาดู เมื่อตระเวนน้ำตระเวนบกแล้วก็นำตัวไปประหาร แต่การประหารคราวนี้เป็นการใช้ขวานผ่าอกแทนการตัดคอ บรรดาญาติพี่น้องของเสืออ่วมต่างพากันไม่ดำเนินรอยตาเสืออ่วม เป็นคนดีสืบเชื้อสายอกโรยที่เป็นถึงกำนัน กำนันสมานกำชับไพฑูรย์ให้อยู่แต่ในที่พักห้ามออกไปเที่ยวเล่น เพราะหากถูกจับชื่อเสียงของแกจะพังหมด ไพฑูรย์รับปากเพราะเกรงใจทั้งกำนันสมานและพี่เสงี่ยม ได้แต่นั่งๆนอนๆ จนเช้าวันหนึ่งมีคนมาตามให้ไปบ้านกำนันสมาน พอไปถึงก็พบกำนันสมานนอนบาดเจ็บถูกฟันเข้าที่ต้นแขน กำนันสมานบอกว่าเสือปลั่ง บ้านสามบัณฑิต ใช้ดาบอาคมฟันจนบาดเจ็บขณะบุกเข้าจับกุม ไพฑูรย์เอามีดหมดหลวงพ่อเดิมออกมา เอาด้ามฝนกับฝาละมีหม้อดิน เอาน้ำล้างใบมีดหมอผสม นำไปทาแผลแก้อาถรรพ์ เพราะปากแผลเขียว แผลกำลังจะเป็นแผลกลาย สามวันแผลก็เป็นปกติ กำนันสมานออกปากว่าเคยได้ยินชื่อมีดหมอหลวงพ่อเดิม แต่ไม่เคยรู้มีสรรพคุณเพียงนี้ ไพฑูรย์ได้บอกเส้นทางไปรับมีดหมอหลวงพ่อเดิม แล้วกระซิบบอกกับกำนันสมานว่าจะตามล้างแค้นให้เอง กำนันสมานห้ามเสียงหลงเพราะดาบอาคมของเสือปลั่งทำลายอาถรรพ์ ไม่ว่าจะเป็นรอยสักหรือเครื่องรางต่างๆมามากต่อมาก แต่ไพฑูรย์บอกว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมก็จะล้างอาถรรพ์เสือปลั่งเหมือนกัน กำนันสมานให้ลูกชายไปหยิบดาบอรัญญิกที่ดีขึ้นจากเหล็กน้ำพี้ผสมทองแดงยอดนพศูล กับเหล็กอรัญญิกเดิม หลอมแล้วจึงตีขึ้นรูปตีแล้วจุ่มน้ำผสมน้ำพระจันทร์เพ็ญเดือน12 ตอนเที่ยงคืนเพื่อให้เนื้อเหล็กผ่านร้อนผ่านเย็นเป็นร้อยเป็นพันครั้งเกิดความเหนียวไม่เปราะง่ายเหมือนที่ตีจากเหล็กน้ำพี้บ่อพระแสงที่คมจริง แต่ใช้ต่อสู้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆจะเกิดความร้อนและเปราะหักง่าย ไพฑูรย์ถือโอกาสลากำนันสมานแล้วเดินทางไปกับลุงสนิท มือขวาของกำนันสมานเป็นคนแกะรอยเก่งเป็นสายสืบเก่า แต่ลาออกมาช่วยกำนันสมานเพราะเป็นคนที่มีเชื้อสายอกโรยเหมือนกัน สืบจนได้ที่ว่าเสือปลั่งจะปลอมตัวมาเล่นพนันไก่ชนที่บ้านอรัญญิกทุกวันโกน บ่อนไก่เปิดจนปิดเสือปลั่งได้เงินพนันมากโขเอาใส่ย่ามไว้เดินมาที่ลานโพธิ์หลังบ่อน เป็นที่ๆลุงสนิทนัดให้เสือปลั่งมาประลองเพลงดาบ เสือปลั่งเห็นเสือไพฑูรย์ถือดาบเดี่ยว ก็โยนดาบเล่มหนึ่งให้ลูกน้องถือไว้ ‘’ไอ้หน้าอ่อนแว่นตาดำ(ไพฑูรย์ใส่แว่นตาดำอำพรางใบหน้าตลอด) แน่ใจนะว่ารับมือไหว ให้เลือกว่าพอเอาเลือดตกยางออกหรือเอาถึงตายล่ะ’’ ‘’ประลองแค่เลือดตกยางออกก็พอแล้ว’’ ไพฑูรย์ถอดแว่นตาดำส่งให้ลุงสนิท ดาบประดาบ ไพฑูรย์ใช้เชิงกระบี่กระบองที่เรียนมาจากบ้านเกิดจังหวัดตาก ผสมกับที่อาจารย์กี้สอนตอนที่เป็นนักเรียนประยุกต์เข้าด้วยกัน เสือปลั่งใช้เพลงดาบแบบรุกฆาต เป็นการใช้ดาบตะลุยฟันแบบม้วนเดียวจบหูได้ยินคำสอนของอาจารย์กี้ที่ว่า ‘’เจอดาบแบบรุกฆาตอย่าไปตกใจให้รับมือให้ดี ยั่วให้ฟันเหงื่อตกแล้วรุกคืนช้าๆมันโต้ตอบไม่ได้ถนัดหรอก เพราะดาบรุกฆาตนั้นหากไม่อาจทำอันตรายคู่ต่อสู้ได้แล้วละก็จะตกเป็นรองทันที’’ ไพฑูรย์รับถอยหลอกล่อไปมา คมดามอาถรรพ์ของเสือปลั่งได้แต่เพียงเฉียดไปมาแบบขนลุกเพราะไพฑูรย์ระวัง ครู่ใหญ่แรงที่ฟันเข้ามาเริ่มอ่อนลง ไพฑูรย์รุกกลับด้วยการฟันสลับบนล่างและในที่สุดดาบลวงพรางก็สำแดงเดช ดาบลวงพรางเป็นดาบที่เรียกกันว่าดาบครึ่งเพลง หมายถึงทำทีเป็นโถมฟันบนแล้วยั้งฟันตวัดขึ้นทำให้คู่ต่อสู้รับมือไม่ถนัดดาบลวงพรางสำแดงเดชผล เมื่อไพฑูรย์ฟันแบบฝานบวบ คือฟันจากบ่าซ้ายตัดหน้าอกไปออกชายโครงขวาเสือปลั่งยกดาบขึ้นกันบนไพฑูรย์พลันยั้งมือแล้วฟันข้องอ้อยคือการฟันตรงแบบฟันลำอ้อย เสือปลั่งลดดาบลงมากันไม่ทันไพฑูรย์ใช้ปลายดาบฟันชายโครงเสียงดังบึก เสือปลั่งเหนียวจริง แรงฟันทำให้เสือปลั่งเสียหลัก ไพฑูรย์เข้าระยะประชิดมือซ้ายดึงมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่เอวออกมาสะบัดปลอกออก แทงให้เฉียดชายโครงเสือปลั่ง อำนาจมีดหมอทำลายอาคมเสือปลั่ง เสือปลั่งปล่อยดาบหลุดมือเอามือกุมเอวที่เลือดทะลักออกมา ‘’มึงใช้มีดอะไรวะไอ้แว่นดำ’’ ‘’มีดหมอหลวงพ่อเดิมเอาแค่นี้พอแล้ว’’ ไพฑูรย์เอามีดหมอฝนกับหินลับมีด เอาน้ำประสะไปทาบาดแผลถอนอาถรรพ์มิให้แผลกลาย แล้วเดินทางหนีต่อไป ฝากดาบให้ลุงสนิทคืนให้กำนันสมานจากนั้นอีก 3 เดือนก็ได้ข่าวว่ากำนันสมานยิงเสือปลั่งตายขณะต่อสู้ เพราะนับแต่ถูกไพฑูรย์แทงเนื้อหนังที่เคยแกร่งเป็นหินของเสือปลั่งก็หมดสรรพคุณ